mind

โควิด ๑๙: หรือโลกต้องทบทวนตัวเอง

แชร์ให้เพื่อนเลย

สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด ๑๙ มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน ในช่วงเวลาแค่ ๓ เดือน
ในจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นผู้นำประเทศ นายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักกีฬา คนดัง หลายคนเสียชีวิตโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศมหาอำนาจ มีระบบสาธารณสุขดีที่สุด เป็นผู้นำวิทยาการทางการแพทย์
กลับเป็นประเทศมีผู้ติดเชื้อสูงสุด
มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด

ภาพประกอบบทความ จากลิงค์แจ้งสถานการณ์แต่ละประเทศ เรื่อง การติดเชื้อโควิด๑๙

กำลังคน สถานที่และเครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย
บางประเทศต้องอยู่ในภาวะที่หมอต้องเลือกรักษาคนไข้ ที่มีโอกาสรอดก่อน
ผลกระทบเกิดเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก
ธุรกิจหยุดกิจการ
คนไม่มีงานทำ เกิดภาวะความอดอยาก
รัฐบาลแต่ละประเทศต้องอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อให้การช่วยเหลือ
พรมแดนระหว่างประเทศ ระหว่างเมืองในหลายๆประเทศถูกปิด
คนเกือบทั้งโลก
ได้รับการแนะนำให้อยู่ในบ้านของตัวเอง
ได้รับคำแนะนำให้มีระยะห่างทางสังคม
ได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย
บางประเทศถูกกำหนดเป็นกฎหมาย

ภาพประกอบบทความ : แนะนำให้ปฏิบัติตน รักษาความสะอาดและSocial Distancing

โลกได้มีโอกาสทบทวนตัวเอง

มหาอำนาจทางทหารแข่งขันเพื่องานวิจัยอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ใช้งบประมาณมหาศาล เพื่อการซื้ออาวุธ สะสมอาวุธ
เมื่อโลกเจอภัยคุกคามใหม่ของมนุษยชาติ คือเชื้อไวรัสโควิด
ไวรัสโควิด ๑๙ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น
เป็นสิ่งที่ปนออกมากับละออง เสมหะ ทางปาก ทางลมหายใจ
เป็นสิ่งที่ติดอยู่บนสิ่งของได้นานหลายชั่วโมง
กองทัพที่เกรียงไกร กลับไร้ประโยชน์เมื่อเจอกับภัยใหม่
อาวุธไม่มีประโยชน์ มิอาจช่วยชีวิตใครได้เลย
สถานการณ์ที่ร้ายแรง
ทำให้ทุกคนมีความเสี่ยงเหมือนกันหมด เป็นเหมือนระเบิดเวลา ไม่รู้จะติดเมื่อไร

คุณครูไม่ใหญ่ท่านได้เคยให้ข้อคิดไว้ว่า
“โดยทั่วไป คนเราแม้ยังไม่ได้ดื่มสุราเมรัยก็เมาอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเมา คือเมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาว
คิดว่ายังมีเวลาสนุกสนานอีกนานหลายปี ยังไม่แก่ชราง่ายๆ
จึงไม่รีบขวนขวายประพฤติธรรม
บ้างก็เมาในความเป็นผู้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
คิดว่าตัวเองยังแข็งแรงอยู่ และก็จะแข็งแรงต่อไปอีกนาน
โดยหารู้ไม่ว่าโรคร้ายต่างๆกำลังคืบคลานเข้ามาเยือน
เพราะว่าร่างกายเป็นรังแห่งโรค
เมื่อวิบากกรรมในอดีตตามส่งผล ก็พร้อมจะนำเอาโรคร้ายมาสู่ตัวเราได้ตลอดเวลา
บางคนก็เมาในชีวิต คือคิดว่าความตายยังอยู่ห่างไกล อีกนานกว่าความตายจะมาถึง
โดยหารู้ไม่ว่าความตายไม่ได้มีนิมิตหมายบอกล่วงหน้า
พญามัจจุราชสามารถคร่าชีวิตไปได้ในทุกขณะจิต
ผู้รู้ทั้งหลาย ท่านสงสารชาวโลก
เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่ยังประมาทกันมาก โดยไม่เฉลียวใจว่า ความตายพร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ที่จริงตั้งแต่เกิดมาก็มีความแก่ ความเจ็บและความตายติดมาด้วยอยู่แล้ว
เหมือนดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้า ก็บ่ายหน้าไปสู่การอัสดงไม่เคยยืนยงส่องสว่างตลอดกาล
ชีวิตมีภัยอันตรายอยู่รอบด้าน พร้อมจะดับลงได้ทุกขณะ
จึงจำต้องไม่ประมาท รีบเร่งสร้างบุญกุศล ติดตัวไปได้มากที่สุด”

การสั่งสมบุญด้วยวิธีการทำสมาธิอย่างง่าย ๆที่บ้านของท่าน ใจสบาย ชีวิตก็เป็นสุขยิ่ง 

แง่มุมดีๆ ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์โควิด ๑๙

ในวิกฤตการณ์โควิด ๑๙ ก็ทำให้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นเช่นกัน
มนุษย์ได้มีเวลาเป็นของตัวเอง มีเวลาให้กับครอบครัว ได้ฝึกการใช้ชีวิตแบบสงบสันโดษ จากการกักตัวอยู่กับบ้าน และ
การเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing
ได้ทบทวนตัวเอง รู้จักพอประมาณ มองเห็นสัจจธรรมของชีวิต
ระมัดระวังในอิริยาบทและการใช้ชีวิต ทำให้มีสติ สะอาด มีระเบียบวินัย
รู้จักใส่ใจดูแลสุขภาพ
ผับ บาร์ สถานอโคจร แหล่งอบายมุขถูกปิดหมด หยุดการสร้างบาป หยุดการมอมเมา
ควันพิษบนท้องถนนลดน้อยลง จากการที่ผู้คนถูกกักตัวอยู่กับบ้าน
ในประเทศจีน ประเทศที่เคยมีมลพิษสูงที่สุดในโลก กลับมีระดับมลพิษลดลงอย่างมาก จากการปิดโรงงานอุตสาหกรรม
ในเวนิส ประเทศอิตาลี ทะเลสะอาดขึ้น พบโลมากลับเข้ามาว่ายน้ำเป็นครั้งแรกในรอบ ๖๐ ปี

ปฏิบัติตนเองโดยการรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยของชีวิต

ดูเหมือนสภาพแวดล้อมของโลกกำลังฟื้นฟูดีขึ้นเรื่อยๆ
ได้เห็นภาพอาสาสมัคร คุณหมอ บุคลากรสาธารณะสุขทำงานหนักสู้ภัยโควิด ด้วยหัวใจแห่งความเมตตาและเสียสละ
ได้เห็นภาพการบริจาค ความช่วยเหลือต่างๆ ด้วยน้ำใจ ความสามัคคี
ได้เห็นหลายๆประเทศ ส่งแพทย์พยาบาล เครื่องมือทางการแพทย์ ไปช่วยประเทศที่วิกฤติกว่า เห็นคุณค่าของมิตรแท้ในยามยาก
ได้เห็นมหาอำนาจต่างขั้ว ประเทศจีนและรัสเซียส่งความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้สหรัฐอเมริกา เพราะชีวิตมนุษย์สำคัญที่สุด
กลุ่มผู้ก่อการร้ายประกาศหยุดปฏิบัติการทั้งหมด ไม่มีสงคราม หยุดการเบียดเบียน โลกเริ่มกลับสู่สันติภาพอย่างที่ควรเป็น
เรามองเห็นสิ่งดีๆที่กำลังเกิดขึ้น

ที่ผ่านมา…
ความแตกต่าง ทำให้คนเราต้องมารบกันเอง
เพราะความไม่รู้จักพอ ทำให้ทรัพยากรถูกใช้อย่างฟุ่มเฟือย สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย
ในวิกฤตการของมนุษยชาติ ผู้คนตระหนักและเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น
หลายคนอาจเริ่มค้นพบแล้วว่า
เราต่างเป็นเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน
ต่างอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมเดียวกัน
ต่างเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
มีแต่ความสามัคคี สันติภาพ การแบ่งปัน ทำให้โลกรอดพ้นมหันตภัยครั้งนี้ไปได้
การที่ชาวโลกได้กลับมาทบทวนตัวเอง ผมเชื่อว่าโลกจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน

ภาพประกอบบทความ เชิญชวนนั่งสมาธิในช่วงกักตัวเองอยู่ที่บ้าน “สมาธิเป็นวัคซีนของใจ”

หยุดใจชนะภัยโควิด
มีโครงการดีๆโครงการหนึ่ง ได้เชิญชวนชาวโลกมา นั่งสมาธิเพื่อหยุดใจชนะภัยโควิดกัน
โครงการ Meditate Against Covid๑๙
เป็นโครงการนั่งสมาธิออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ถึง ๒๒ เมย. ที่เวลาเดียวกัน เวลา ๑๗.๓๐ น. เป็นเวลา ๒๐ นาที และหรือเวลา จัดเวลาพิเศษตามเพจการบ้านเชิญชวนในช่วงหลังเที่ยง พักผ่อนกายใจให้สบาย ก่อนทำงาน  ก็ได้
เป็นการนั่งสมาธิ เพื่อให้เรามีธรรมะคุ้มครองใจ
เพื่อดึงสติให้กับตัวเอง
ดึงใจเข้าหาตัว
ให้กระแสแห่งความบริสุทธิ์
ได้เข้าไปชำระธาตุอันไม่บริสุทธิ์ภายในตัวของมวลมนุษยชาติ เหล่าสรรพสัตว์ และภายในโลกใบนี้
เพื่อนำพาโลกไปสู่ยุคใหม่
ยุคศีลธรรมอำไพ
ที่กลิ่นของศีลธรรมจากความบริสุทธิ์ในใจของมนุษย์ จะแผ่ขยายไปคลุ้มครองโลก ให้พ้นจากมลทินคือความไม่บริสุทธิ์ทั้งปวง
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
facebook Meditate against Covid-๑๙

การ์ดเชิญชวนนั่งสมาธิที่บ้านวันละ ๒๐ นาที

ที่มาภาพและเนื้อหา

 

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้