เนื่องด้วยโครงการ “หลายล้าน คนทั่วโลกร่วมจุดประทีปและนั่งสมาธิออนไลน์
ในวันคุ้มครองโลก”
โดยมีคณะสงฆ์จากทั่วโลกกว่าหมื่นรูป ร่วมพิธีจุดประทีปเจริญ พุทธมนต์
โดยหลวงพ่อทัตตชีโว ท่านได้เน้นย้ำความสำคัญ ให้หลักคิดและวิธีการที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จ
ไว้ในวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565
ซึ่งขออนุญาตนำมาเรียบเรียงไว้ในโพสต์นี้
วิธีเดียวที่จะทำให้โลกสงบได้
ทำใจให้หยุดให้นิ่งอยู่ภายใน ดูเหมือนเป็นคนขี้เกียจแต่จริงๆแล้วนี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้โลกทั้งโลกสงบได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เมื่อบังเกิดขึ้นก็บังเกิดด้วยการทำใจหยุดใจนิ่ง
แล้วตลอดพระชนม์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ก็สอนเรื่องเดียวคือสอนให้ชาวโลกทำใจหยุดใจนิ่งให้เป็น
แล้วก็ไม่ว่าความทุกข์ชนิดไหนๆ ที่เคยบีบคั้นใจมาแต่ละภพแต่ละชาติ นับอสงไขยพบอสงไขยชาติไม่ถ้วนของแต่ละคน ก็จะถูกกำจัดไปตามลำดับๆ จนกระทั่งหมดทุกข์หมดกิเลสเช่นเดียวกับพระองค์
อยากจะฝากเอาไว้กับพวกเรา ความรู้ที่บริสุทธิ์อย่างนี้มีบังเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่2600 ปี
แล้วก็ความรู้อย่างนี้แหละที่ทำให้โลกในยุคนั้นสงบไประดับหนึ่ง
แต่ว่าหลังจากนั้นมา คำสอนในเรื่องการทำสมาธิ การทำใจหยุดใจนิ่ง สู้กับศัตรูตัวจริงของตัวเองคือกิเลสในตัว ชักจะเลือนรางหายไปจากโลกมนุษย์
ทำให้เกิดสงคราม ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันเพิ่มขึ้นๆมาตามลำดับๆ
การล้างผลาญมิอาจทำให้โลกสงบได้
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงพ่อยังทัน
หลวงพ่อเกิดวันที่ 21 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2483
2484 หลวงพ่อขวบหนึ่ง สงครามโลกได้เข้ามาถึงประเทศไทย
ทหารญี่ปุ่นลุยเข้ามาในประเทศไทย แล้วก็ฝ่าไปถึงพม่า
แล้วก็รบกัน ฆ่ากันตายกันไม่รู้เท่าไร
อยู่ต่อมาถึงอีก 5 ปี สงครามโลกจึงได้สงบ
ผลพวงจากสงครามโลกนั้น ทำให้แต่ละประเทศต้องมาบูรณะประเทศตัวเอง
เบาะๆแต่ละประเทศต้องใช้เวลาบูรณะประเทศตัวเองไม่ต่ำกว่า 10 ปี
น้ำตาแทบจะท่วมโลก เลือกนะไม่รู้จะท่วมหัวเข่าหรือเปล่า มันเป็นอย่างนั้น แล้วก็ว่าเข็ดกัน
แต่ว่านั่นแหละ เหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 คนรุ่นหลังไม่ทันได้เห็น
ไม่ใช่ลืม แต่ไม่เคยเห็น
ผู้ที่เคยเห็นก็อย่างหลวงพ่อ แต่เดี๋ยวนี้อายุก็ 82 แล้ว
เพราะฉะนั้นใครที่อายุไม่ถึง 80 ก็คงจำเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้หรอก
ท่านผู้ที่อายุไม่ถึง กำลังทำหน้าที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆอยู่ในโลกนี้
ก็ขอฝากไว้ด้วยว่า ย้อนกลับไปอ่านประวัติของสงครามโลกดูให้ดีนะ
แล้วก็หันมาแก้ปัญหาอย่างถูกวิธีเถอะ
การล้างผลาญกันด้วยสงครามภายนอกมันไม่มีทางทำให้โลกสงบได้
จะใช้นิวเคลียร์อีกกี่ลูกกี่ลูกมาถล่มกัน มันก็ไม่สงบ มันแก้ปัญหาไม่ได้หรอก
แต่นี่แหละ หันหน้ามานั่งสมาธิกันดีกว่า
มาทำใจให้สงบ แล้วก็มารบกับกิเลสในใจตัวเอง มาทำใจหยุดใจนิ่งใจใสๆ
มานั่งใจหยุดใจนิ่งใจใสๆ แล้วเราจะเริ่มเห็นว่า
สิ่งที่น่ารบอย่างยิ่งคือ รบกับนิสัยไม่ดีของตัวเราเองซึ่งมีคนละเยอะแยะเลย
รบกับนิสัยชอบวุ่นวายของเรา รบกับนิสัยขี้เหนียว นิสัยขี้ตระหนี่ นิสัยเอาเปรียบ นิสัยเจ้าโทสะ นิสัยไม่ดีอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะเลย
นั่งหลับตาทำใจหยุดใจนิ่งซะ เราจะเห็นว่านิสัยไม่ดีเหล่านี้ของเรายังมีอีกเยอะ
แล้วเมื่อเราใจหยุดใจนิ่งมากเข้า นิสัยไม่ดีของเรามันจะค่อยๆหลุดออกไปจากใจ ไปตามลำดับๆ
แล้วเมื่อตั้งใจทำกันจริงๆ นิสัยไม่ดีเหล่านี้มันจะหลุดออกไปจากใจเราแบบถาวร ตามเส้นทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ที่ท่านดำเนินไปก่อนหน้าเราแล้ว
โลกจะสงบได้ เริ่มต้นจากชวนคนนั่งสมาธิวันละ 15 นาที
22 เมษายนที่จะถึงนี้เป็นวันคุ้มครองโลก
พวกเราบูชาข้าวพระวันนี้ สมาชิกไม่น้อยเลย ทั่วโลกรวมกันแล้วไม่น้อยเลย
หลวงพ่อว่านะ..
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 22 เมษายน
วันนี้วันที่ 3 เหลืออีก 19 วัน
อีก 19 วันที่เหลือนี้ ถ้าพวกเรา ไปช่วยกันตามเพื่อนบ้านญาติสนิทมิตรสหายให้เริ่มนั่งสมาธิกันตั้งแต่วันนี้
เริ่มนั่งครั้งแรกขอไม่มาก เอาคนละสัก 10 นาที 15 นาทีก็ยังดี
เริ่มจาก 15 นาทีก็แล้วกันนะ แล้วจะพบว่ามันดีอย่างไร
แล้วแต่ละวันพอเลิกนั่งปุ๊บ ใจชุ่มยังไง
รีบโทรตามพรรคพวกเพื่อนฝูงเลย วันละ 5 คน 10 คน
อย่างไรก็ตามที ให้เขาลองนั่งสมาธิตามเราดู
แล้วก็จะถึงวันที่ 22 อีก 19 วันที่จะถึงนี้ เราคงได้สมาชิกกันคนละเยอะๆ
ถ้าพวกเรารวมกันแล้วได้ตั้งแต่ล้านคนขึ้นไป ในวันที่ 22 นั่งพร้อมๆกันออนไลน์ ออนซูมอะไรก็ตามที
หรือยิ่งมากกว่าล้านคนได้ก็ยิ่งดี
การที่ใครทำใจหยุดใจนิ่งอย่างนี้ อานุภาพไม่น่าเชื่อนะ
มันจะทำให้โลกนี้เย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีฤทธิ์จริงๆ
ขอยืนยัน..ถ้า 1 ล้านคนนั่งพร้อมๆกัน โลกทั้งโลกจะสงบเย็น
ทำเอาคนอีกเป็นพันๆล้าน ที่ยังไม่ได้มาสงบด้วย ถึงกับสะดุ้งเลย
ว่าเอ๊ะโลกนี้สงบเย็นลงมาได้ด้วยอะไร
อ๋อด้วยการนั่งหลับตา ทำใจหยุดใจนิ่ง
มันจะเป็นพลังที่จะที่จะชงักโลกไม่ให้ก้าวร้าวกันต่อไป
และเป็นพลังในการกระชากชาวโลกอีก เป็นพันๆล้าน ให้หันมาสนใจการนั่งสมาธิไปพร้อมๆกันทั้งโลก
ซึ่งถ้าแต่ละคนทั้งโลก หันหน้ามานั่งพร้อมๆกันได้เมื่อไหร่
ไม่ต้องมากแค่วันละ 10 นาที 15 นาทีพร้อมๆกัน นี่อย่าว่าแต่ทั้งโลกเลย
เพิ่มขึ้นทีละล้านครึ่งล้านทุกวันๆ โลกทั้งโลกจะสงบเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่าคิดว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้ แล้วก็อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
ใจ..มีพลังมหาศาล ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
ใจของทุกคนนั้นมีพลังที่ไม่น่าเชื่ออยู่แล้วนะ แม้เด็กก็มีพลังตรงนี้
พลังยังไงขอฝากดูตรงนี้
เรานั่งกันอยู่ตรงไหนในโลกนี้ก็ตามที ถ้าจะส่งใจไปดวงอาทิตย์
นึกถึงดวงอาทิตย์ ใจเราไปถึงดวงอาทิตย์ได้
จะนึกให้กลับก็กลับมาได้
ไม่ต้องเสียเวลา และไม่ต้องมียานพาหนะใดๆ
ใจเรานี้ แค่กระพริบตาทีเดียวก็ทั้งไปถึงดวงอาทิตย์และกลับจากดวงอาทิตย์มาอยู่ในตัวเรา
ใจเรามีฤทธิ์ที่จะทำได้
พริบตาเดียวใจก็ไปถึงดวงอาทิตย์แล้วก็กลับได้ แสดงว่าใจของเรานี่มีความเร็วและมีพลังมหาศาลนะ
แต่เราไม่รู้ตัวว่าเรามีพลังขนาดนี้เท่านั้นแหละ
เมื่อเทียบกับแสงอาทิตย์ แสงจากดวงอาทิตเดินทาง
แสงโดยทั่วไปมีความเร็ว 186000 ไมล์ต่อวินาที
เพราะฉะนั้นแสงจากดวงอาทิตย์มายังโลก ใช้เวลาเดินทาง 8 นาทีกว่า
8.3-8.4 นาที อะไรอยู่แถวแถวๆนี้
แสงจากดวงอาทิตย์มายังโลกใช้เวลา 8 นาทีเศษ
แต่ใจของเราแต่ละคน ส่งไปดวงอาทิตย์แล้วเอากลับใช้เวลาเพียงกระพริบตาทีเดียวก็ได้แล้ว
เป็นเครื่องยืนยันว่า ใจของเราแต่ละคนมีพลังเหนือกว่าดวงอาทิตย์ แต่เราไม่รู้
เอาล่ะพลังด้านอื่นก็ยกไว้ แต่แน่ๆความเร็วขนาดนี้กระพริบตาทีเดียวไปกลับได้ จากโลกมนุษย์ไปดวงอาทิตย์ จากดวงอาทิตย์กลับมาโลกมนุษย์ กลับมาที่ตัวเรา
แต่ดวงอาทิตย์มายังโลก เทียบกันแล้วต้องบอกว่าช้ากว่าเต่าที่คลานตามกระต่ายเสียอีก
เป็นอย่างนี้นะ เพราะฉะนั้นรับทราบไว้ด้วย เรามีพลังไม่น่าเชื่ออยู่ในใจของเราทุกคนแล้ว
เพียงแต่ว่าเรายังไม่รู้จักที่จะรวมพลังของเราให้มีอานุภาพอย่างแท้จริง
การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ได้ตรัสรู้ แล้วสอนให้ชาวโลกทำใจหยุดใจนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกาย ก็ตรงนี้แหละ
เพราะว่าใจหยุดใจนิ่งที่ศูนย์กลางกายได้เมื่อไหร่ ใจจะทรงพลัง แต่เป็นพลังที่บริสุทธิ์
เป็นพลังที่บริสุทธิ์คือ ปรารถนาดีกับทุกๆชีวิต
พลังแห่งความปรารถนาดี จะนำสันติสุขมาให้
เพราะเมื่อใจบริสุทธิ์ขนาดนั้นจะรู้เลยว่า ทุกชีวิตรังเกียจทุกข์
ไม่มีใครอยากเป็นทุกข์ ทุกชีวิตอยากเป็นสุข
เมื่อรู้อย่างนี้ สิ่งหนึ่งที่จะเกิดเป็นเงาตามตัวมาก็คือ เกิดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
จะเกิดการรู้จักเอาใจเขาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขา
เรารักสุขเกลียดทุกข์อย่างใด ก็จะเกิดความรู้สึกว่าเราก็ไม่ควรจะไปทำให้คนอื่นเขาเป็นทุกข์
เพราะคนอื่นเขาก็รักสุข แล้วก็เกลียดทุกข์เช่นเดียวกับเรา
เมื่อไหร่ใจหยุดใจนิ่งที่ศูนย์กลางกายได้ เมื่อนั้นความรู้สึกเอาใจเขามาใส่ใจเราจะเกิดขึ้น
ยิ่งใจหยุดใจนิ่งที่ศูนย์กลางกายได้นานเท่าไหร่ ความรู้สึกเช่นนี้จะมากขึ้น
และความปรารถนาดี ต่อไม่ว่าคนใดคนหนึ่งที่เรารัก ต่อทุกสรรพสัตว์ ทุกสรรพสิ่ง
เราก็จะมีความรู้สึกกับสัตว์เหล่านั้นสิ่งเหล่านั้นท่านเหล่านั้นเหมือนกันหมดเลย
แล้วสันติภาพสันติสุขอย่างแท้จริง จึงจะเกิดในโลกนี้ขึ้นมาได้
ต้นบุญต้นแบบเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม
ช่วยกันตั้งแต่วันนี้ ขอเวลา 15 นาที
ในแต่ละวันนั่งสมาธิช่วงไหนก็แล้วแต่ แล้วพอใจชุ่มดีแล้ว ช่วยตามหมูญาติ ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนบ้านทั้งหลาย ใครที่เราคุ้นเราเคย
ชวนเขานั่งสมาธิตั้งแต่วันนี้เลย
เมื่อนั่งแล้วเขาก็จะรู้เองว่าดีอย่างไร
แล้วก็ให้กำลังใจเขาด้วยว่าช่วยบอกต่อๆ กันไปด้วย
ช่วยกันอย่างนี้นะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่างน้อยนั่ง 15 นาที ถ้าใครนั่งได้มากกว่านั้นก็ยิ่งดี
นั่งเสร็จแล้วใจชุ่ม ตามพรรคพวกหมู่ญาติสนิทมิตรสหายสัมพันธชน ให้มาร่วมนั่ง
เอาว่าท่านละ 50 คนอย่างน้อย
ถ้าอย่างนั้นถึงวันที่ 22 เมษายนนี้ 1 ล้านคนไม่ยากเลย
ไม่ยากเลยที่ทั่วโลกจะมานั่งพร้อมๆกัน
แล้วนั่นแหละ พลังใจของเราอย่างที่บอกว่ามีพลังยิ่งกว่าดวงอาทิตย์จะช่วยช็อคโลกโลกที่กำลังร้อนๆ มันจะช็อคมาเลย มันจะสงบได้ขึ้นมา
แล้วก็อีกเป็นพันๆล้านคนที่ยังไม่ได้คิด เขาจะได้คิด โดยมีเราเป็นต้นบุญต้นแบบ
ก็ขอให้ทุกท่านที่ตั้งใจไปช่วยกันอย่างนี้ ก็มาช่วยเป็นต้นบุญต้นแบบ แล้วก็ได้บุญเยอะๆไปพร้อมหน้ากันแล้วบุญนี้ก็จะส่งถึงตัวของเราให้หมดกิเลสโดยเร็ว
ส่งถึงพ่อแม่พี่น้องของเราที่ยังมีชีวิตอยู่
ส่งถึงปู่ย่าตาทวด บรรพบุรุษ บูรพาจารย์ของเรา ที่สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ที่สร้างประเทศชาติให้เราอยู่
เป็นการตอบแทนพระคุณท่านเหล่านั้น แล้วเราก็จะได้ไปถึงที่สุดแห่งธรรมด้วยกันทุกท่านเน้อ
ที่มาภาพและเนื้อหา
ขอบคุณภาพจากเพจการบ้าน และ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย