ภาพพานดอกมาลัยมะลิและดวงแก้ว

คุณครูไม่เล็ก ต้นแบบนักสร้างบารมี ตอนที่ ๒

แชร์ให้เพื่อนเลย

ประวัติและคุณธรรมของคุณครูไม่เล็ก
ถ่ายทอดโดยพระครูปลัดสุวิทย์ สุวิชชาโภ
บุคคลรุ่นบุกเบิกยุคบ้านธรรมประสิทธิ์
จากบทความที่แล้ว
ว่าด้วยเรื่องราวการรวมทีมของหมู่คณะยุคบ้านธรรมประสิทธิ์และการหาที่ดินเป็นชัยภูมิ เพื่อลงหลักปักฐานสร้างวัด
บทความตอนนี้ก็จะนำไปสู่คุณธรรมของคุณครูไม่เล็กเมื่อต้องเป็นผู้นำ เป็นแม่ทัพหลักชัยของลูกศิษย์ทุกคน
ท่านเป็นประธานการก่อสร้างคนที่ ๑ ของศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม
ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ ๑ ตรงนี้

คุณครูไม่เล็ก ผู้นำลงพื้นที่สร้างวัด

หลังจากนั้นไม่นานก็มีการนัดแนะมาดูแผ่นดินผืน ๒๐๐ ไร่
เป็นการมาครั้งแรกก่อนปี ๒๕๑๓ ที่เราขุดดินก้อนแรก
เรามาดูกันก่อน ยกมาทั้งทีม
คุณยายท่านก็มา
คุณครูไม่ใหญ่ก็มา
คุณครูไม่เล็กก็มา
อาจารย์วรณีก็มา
ฉันก็มาด้วย

คุณหญิงประหยัด แพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี ถวายที่ดิน 196 ไร่
ภาพประกอบคุณหญิงประหยัด แพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี ถวายที่ดิน 196 ไร่ เพื่อสร้างวัด

มาดูแผ่นดินครั้งแรก ตอนเดินทางมานั้นพหลโยธินยังเป็น ๒ เลนอยู่เลย
มันไม่ใช่ถนนกว้างเหมือนในปัจจุบัน แค่ ๒ เลนวิ่งสวน
พอมาถึงคลองหลวงก่อนเลี้ยวขวา ตรงซ้ายมือเป็นที่ดินธรรมศาสตร์
ธรรมศาสตร์ก็ซื้อที่ดินไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สร้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต
พอเลี้ยวขวามาเจอถนนลาดยาง
ก็ใจชื้นหน่อยนะ..ถนนลาดยาง
พอถึงสะพานคลองหนึ่งตอนนั้นเป็นสะพานไม้..ชักยังไง
พอลงจากสะพานไม้เท่านั้นแหละ ถนนลูกรังยาวเหยียดเลย
เห็นแดงไปตลอดทาง
เราก็เข้ามาจนกระทั่งถึงคลองสาม
พอถึงคลองสามเลี้ยวซ้ายเข้าคลอง ๓ มันไม่ใช่ลูกรังแล้ว..เป็นคันดิน
มาใหม่ๆ..นั่นคันดินแท้ๆ..ดินเหนียวด้วย
เข้ามาได้สัก ๖๐๐-๗๐๐ เมตร ถ้าพูดง่ายๆก็ถึงหัวมุมด้านทิศตะวันออก
คือจุดแรกที่เข้าถึงพื้นที่
แล้วเราก็จอดรถตรงนั้น

ฉันเคยไปงานตอนสร้างเจดีย์มหาทัตตชีโวที่เมืองกาญจน์
แล้วก็ไปพบกับหลวงพ่อคุณครูไม่เล็กท่าน
วันนั้นเผอิญนึกถึงเรื่องนี้ แล้วก็เลยถามท่าน

ภาพพระมหาเจดีย์ทัตตชีโว
ภาพประกอบคำบรรยายการเทศน์ของพระปลัดสุวิทย์ สุวิชชาโภ

หลวงพ่อ..หลวงพ่อจำได้ไหม ก่อนขุดดินก้อนแรกปี ๒๕๑๓ เราไปดูพื้นที่กันก่อน
ท่านบอกว่า “จำได้”
อ่ะ! จำได้อยู่ในใจตลอดเลย
กี่ปีแล้วยังอยู่ในใจตลอดเลย
เพราะมาตอนนั้น ๒๕๑๒ จะนับถึงปัจจุบันนี้ ๔๙ ปีเต็มจะ ๕๐ ปี..ยังอยู่ในใจ
ถามท่านว่า หลวงพ่อจำได้ไหม
เราไปถึง แล้วเราจอดรถตรงหัวมุมด้านทิศตะวันออกและทางด้านทิศใต้ เราไปจอดตรงนั้นใช่ไหม
ถามท่าน
ท่านบอก..

ใช่..ที่จอดตรงนั้นเพราะว่าไอ้ตรงนั้นมันมีกอไผ่มันร่ม

อ้าว จำได้หมดเลย
ฉันก็ถามท่านต่อว่า
หลวงพ่อ หลวงพ่อจำได้ไหม พอลงจากรถแล้วเนี่ย หลวงพ่อเนี่ยเป็นคนพร้อมเลย เอาสายวัดความยาวมาด้วย
แล้วหลวงพ่อก็เลยบอกผมว่า

“ไอ้น้องเดี๋ยวไปวัดที่กัน”

ท่านบอกว่า “จำได้”
แล้วท่านก็ให้เราถือข้างหน้า
แล้วท่านก็ถือตรงท้ายเพื่อที่จะได้ดูว่าระยะทางเท่าไหร่
ก็เดินเลียบทางด้านทิศใต้ของพื้นที่ ๒๐๐ ไร่เนี่ยมาตลอดเลย
ไปเป็นระยะระยะ
แล้วท่านก็เป็นคนคำนวณของท่านเอง เพราะท่านถือตัวเลขอยู่
พอเดินจากข้างหน้ามาสุดคลองแอน..ก็สุดที่
เพราะว่าเรารู้กันคร่าวๆว่าที่ดินสุดที่คลองแอน
แต่แค่วัดคร่าวๆ
แล้วฉันก็จำได้ว่า ฉันหันไปถามท่านว่า
พี่ๆเท่าไหร่
หลวงพ่อจำได้ไหม
“จำได้”
ก็ถามท่านต่ออีกว่า หลวงพ่อแล้วหลวงพ่อตอบว่าเท่าไหร่
ทดสอบหลวงพ่อ ท่านนึกนิดเดียวเท่านั้น

“รู้สึกว่าจะเป็น ๑,๐๖๐ เมตร”

เราก็ทึ่งท่าน เพราะว่ามันพันเศษจริงๆ ประมาณ ๑๐๖๐ เมตร แต่นี่เป็นการวัดคร่าวๆ
คือตรงจุดสุดจริงๆเนี่ย เรายังไม่รู้ว่ามันต้องจุดไหน เพราะเขาจะมีเว้นที่เพื่อเป็นถนน
แต่ก็ประมาณนี้
นึกถึงบรรยากาศที่เรามาดูที่ในวันนั้น ที่ยกมาทั้งทีม
คนที่เตรียมตัวพร้อมที่จะเข้าสู่งานคือคุณครูไม่เล็ก
เตรียมสายวัดมาวัดเสร็จเลย
เหมือนวัดกำลัง..จะได้แค่ไหนให้มันรู้ไป
ดูครั้งแรกวัดกันเลย
แต่ว่าเรารู้จากที่เขาบอกมาคือ ที่ดินหน้ากว้าง ๗ เส้น
๘ เส้นนี้ก็ประมาณ ๒๘๐ เมตร
แต่ว่าลึกเข้ามานี้ก็ประมาณ ๑๐๖๐ เมตรบวกลบนิดหน่อยเพราะว่าตอนนั้นวัดแค่คร่าวๆ
เป็นสิ่งที่อยู่ในใจท่านมาตลอด
เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นการเข้าสู่งาน

คุณครูไม่เล็กเป็นเบอร์ ๑
พร้อมตั้งแต่ตอนที่มาดูที่
วันนั้นฉันเห็นยายที่มาดูที่ด้วย
ยายเห็นท้องนา ยายมีแต่ความสดชื่น
พูดได้คำเดียวว่ายายสดชื่น
ยายของเราไม่มีแววว่าจะรู้สึกว่า โอ้โหมันลำบาก
ไม่มีแววเลย..
มีแต่แววสดชื่น
เหมือนคนที่พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ให้กำลังทั้งหมดกับลูกศิษย์เพื่อที่จะเดินหน้า
นี่คือยายของเรา
ฉันเห็นคุณครูไม่ใหญ่ แต่นี่คือบุคลิกของคุณครูไม่ใหญ่
ท่านเห็นที่ ท่านมองที่ ท่านมองแล้ว เหมือนมองแล้วก็ตรอง แต่ไม่พูดอะไรสักคำ
ฉันจำไม่ได้ว่าท่านพูดอะไรหรือไม่ แต่เหมือนกับว่าจะไม่ได้พูดอะไร
แต่เหมือนกับว่าท่านมองมองมองมองแล้วก็ตรอง แล้วก็คิด
ซึ่งทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่เป็นสิ่งที่ท่านจะต้องรับผิดชอบของท่านเอง

การ์ดคำสอนคุณครูไม่ใหญ่
ภาพการ์ดประกอบ เรือง คำสอนสมาธิ โอวาทคุณครูไม่ใหญ่

ส่วนตัวฉัน ตอนมานั้นยังไม่ ๒๐ ยังเรียนหนังสือแต่ก็พอดีติดขบวนมาด้วย
พูดเหมือนเล่นนะ
แต่ก็พูดเหมือนเล่นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งปัจจุบันนี้
ฉันมองเข้ามาแล้วเห็นแต่ทุ่งนาฟ้าโล่ง เห็นแต่ท้องนา เห็นต้นหญ้าขึ้น
ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรเลย
ไม่มีอะไรที่จะต้องหนักใจเลย ไม่มีเลยซักอย่าง
นี่คือบุคลิกของแต่ละท่าน

ส่วนเจ้าของที่จริงๆแล้วอาจารย์วรณีเอง ยังไม่เคยมาพื้นที่เลย
เพิ่งมาพร้อมกับเราในวันนั้น แล้วมาเห็นที่ของท่านเป็นครั้งแรกก็ตอนที่มากับเรานี่แหละ
แต่กลับไปวันนั้นท่านเต็มใจ พูดได้คำเดียวว่าท่านเต็มใจ เต็มใจตามคุณแม่เลย
เพราะท่านก็อาจจะนึกว่า สิ่งนี้จะได้เป็นบุญให้กับคุณแม่ที่มีอายุมากแล้ว
แล้วตัวท่านเองก็เต็มใจ และยังลงมาช่วยกันทำงานเพื่อที่จะทำให้แผ่นดินผืนนี้มันมีการก่อสร้าง มีการพัฒนาขึ้น
นี่คือบรรยากาศวันนั้น
แต่สิ่งที่จะบอกกับพวกเราคือ คุณครูไม่เล็กอยู่กับเราตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เราจะก้าวเดิน ที่จะสร้างวัดขึ้นมา
ท่านอยู่ในทีมชุดแรกและเป็นพี่ใหญ่

เหมือนฉัน เวลานึกถึงท่าน โอ้พี่เด็จมาแล้ว
มีความเบิกบานสดชื่น
เพราะว่าอะไรก็ตาม งานอะไรก็ตาม ดูเหมือนท่านเป็นคนแรกที่จะเดินก้าวไปข้างหน้า แล้วก็รักงาน
นี่คือคุณครูไม่เล็ก ที่สนองงานคุณครูไม่ใหญ่กับสนองงานคุณยายอย่างสุดหัวใจ
เพราะฉะนั้นตอนเริ่มต้นท่านก็เป็นผู้เริ่มต้น
ตอนได้ที่..ท่านก็เป็นผู้ไปเอาที่มาให้
ตอนมาดูพื้นที่..ท่านก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่พื้นที่
สายวัดคือหลักฐานชั้นหนึ่ง ที่จะบอกว่า..ท่านพร้อม
วัดกำลังกันไปเลย
ฉันมีความรู้สึกว่าท่านวัดกำลังเลย
จะได้ ไม่ได้ ให้มันรู้ไปเลย
แล้วหลังจากนั้นเราก็เริ่มงาน

สิ่งที่เราพูดกันสมัยนั้นคือหาที่ในที่ หาทีมในที่ แล้วก็หาทุนในที่
เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นปกติของคุณยายของเรา
ซึ่งตอนนั้นคุณครูไม่ใหญ่ก็อยู่เคียงข้างแล้ว
แต่ทีมจริงๆดูเหมือนว่ามันก่อตัวมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น
ตั้งแต่คุณครูไม่เล็กเข้ามา
มันเหมือนเป็นสัญญาณบอก
แล้วสมาชิกที่จะมาร่วมทีมก็ทยอยๆกันมา
ด้วยกระแสแห่งบุญ
ถึงเวลาที่จะต้องมา..ก็มา
ฉันจริงๆเป็นคนที่ไม่ได้เคยคิดเข้าวัดมาก่อน
แต่พอถึงเวลา แค่เพื่อนมาบอกว่าไปนั่งสมาธิไหม
ไม่ได้เคยสนใจมาก่อนเลย แต่ถึงเวลาก็เลย..มา
ทันชุดแรกที่จะเริ่มงาน
พอถึงตอนรวมทีมคุณครูไม่เล็กก็จะเป็นแกนให้น้องๆเข้ามารวม
แล้วท่านก็คอยดูแลน้องแต่ละคน
เพราะเห็นว่าน้องแต่ละคนก็จะได้เป็นกำลังจะได้สร้างบารมีร่วมกันไป
ท่านเอื้อเฟื้อเมตตากับน้องๆทุกท่าน
แล้วก็ได้สร้างบุญกันเป็นทีมกันมาตั้งแต่ตอนนั้น
เวลาท่านเจอฉัน บางทีท่านก็บอกว่าหอบหิ้วกันมา
นึกถึงแล้วก็สดชื่น กราบขอบพระคุณท่านในฐานะเป็นตัวแทนศิษย์

ภาพประกอบ การ์ดคำสอนคุณครูไม่เล็ก

คุณครูไม่เล็ก อาสาสมัครหมายเลข ๑ ของวัดพระธรรมกาย

ก่อนเราจะขุดดินก้อนแรก
พอได้ที่มา เจ้าของที่ก็อนุญาตให้เราเข้าสู่พื้นที่ แล้วก็เริ่มงานได้
พอจะเริ่มงานได้ คุณครูไม่ใหญ่ท่านก็มีดำริ ได้ที่มาแล้ว จะเริ่มงานก็ต้องมีคนอยู่พื้นที่
แล้วท่านก็เริ่มปรารภว่าจะหาใครซักคนมาอยู่ในพื้นที่
ถ้าพูดตอนนั้นก็มาเฝ้าที่ก่อน
แต่จริงๆก็คือเฝ้าที่ไปด้วยเริ่มงานไปด้วย
ข่าวมาเบาๆ
แต่ตอนนั้นคุณครูไม่เล็กท่านต้องไปทำงานต่างจังหวัด
แต่กลับเป็นท่าน ได้ข่าวนี้เร็วมาก
ข่าวไปถึงท่านอย่างไรฉันไม่ทราบ
แต่ท่านเล่าตรงนี้ให้ฟังว่า

ได้ยินว่าคุณครูไม่ใหญ่ท่านจะหาใครไปเฝ้าพื้นที่

แต่ตอนนั้นไม่ได้เรียกว่าคุณครูไม่ใหญ่นะ

แล้วจะไปเอาคนอื่นได้อย่างไร..ไม่ได้

ท่านฟังแล้วไม่ยอมเด็ดขาดเลยที่จะให้คนอื่นอยู่ข้างหน้าท่านในการลงพื้นที่
นี่คือวิสัยคุณครูไม่เล็กเลย
และสิ่งที่ท่านทำก็คือ ท่านใช้สิทธิ์เลย
เข้าไปหาคุณครูไม่ใหญ่
ท่านเล่าให้ฟังว่า เข้าไปแล้วถามว่า

ได้ข่าวว่าจะหาคนไปเฝ้าที่หรือ

คุณครูไม่ใหญ่ท่านก็..

ใช่..เพราะว่าได้ที่มาแล้วมันต้องมีคนไปเฝ้าซักคน

อ้าวแล้วท่านจะไปหาคนอื่นทำไม ผม ผม ผมเอง ผมขออาสา

ท่านใช้คำนี้เลย

“ผมขออาสาลงพื้นที่”

ท่านไม่ค่อยให้คนอื่นมาอยู่ข้างหน้าท่านในเรื่องการลงพื้นที่คนแรก
ถ้าพูดง่ายๆท่านทำใจไม่ได้เด็ดขาดเลย
ต้องท่านเอง ท่านเอง ขอลงพื้นที่
แล้วไปขอเองเลย
ถึงแม้ท่านเล่าให้ฟังนานแล้วฉันก็จำได้
คุณครูไม่ใหญ่ท่านก็อนุญาต

“ถ้าเป็นพี่เด็จก็ดีนะสิ”

รู้สึกว่าท่านพูดอย่างนี้นะ
ท่านก็เลยให้คุณครูไม่เล็กลงพื้นที่
อยากจะบอกพวกเราทุกคนว่า
อาสาสมัครหมายเลข ๑ คือคุณครูไม่เล็ก
ชัดเจนมากในประวัติศาสตร์การสร้างวัดของเรามา เบอร์ ๑ คือท่าน
คุณครูไม่เล็ก ผู้เป็นคนงานคนแรก
แล้วก็พอลงพื้นที่ก็ทำงานไปด้วย
คณะเจ้าภาพเขาก็เลยเริ่มขยับ
ไปสร้างบ้านหลังเล็กๆชั้นเดียวแต่ยกสูง
เป็นบ้านไม้ อยุ่ตรงข้างๆป้ายวัดพระธรรมกายในปัจจุบันนี้ เพราะอยู่ใกล้คลอง
จุดแรกเราไม่ได้เข้ามากลางพื้นที่เลยนะ อยู่ตรงข้างหน้าวัด
เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ แล้วคนมาอยู่ก็คุณครูไม่เล็กนี่แหละ
มาเลย..เป็นไงเป็นกัน
แล้วต้องบอกว่าคุณสมบัติในหมู่คณะทั้งหมด ท่านพร้อมที่สุด

เพราะฉะนั้นจึงเป็นคนแรกที่เป็นอาสาสมัคร แล้วก็ลงสู่พื้นที่
อาจจะเรียกได้ว่า..
“คนงานคนที่ ๑” ด้วย
เพราะเริ่มต้นท่านก็ต้องลงมือเอง
ท่านก็ต้องทำงานไปด้วย เฝ้าพื้นที่ไปด้วย
แล้วก็จะได้มาบอกคุณครูไม่ใหญ่ว่าตอนนี้ถึงตรงนี้แล้วนะทำอย่างนี้ๆ
คุณครูไม่ใหญ่ท่านก็แนะนำ ให้ทำอย่างนี้ๆต่อ
แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่ในประวัติเวลาที่ท่านพูดถึงในยุคแรกๆก็คือ
ซื้อเรืออีแปะมา ๒ ลำ
อยู่ได้ไม่นาน ไม่รู้มันไปไหน
ซื้อมาทีละลำ
ลำแรกมาก็หายไป ไปซื้อมาอีกลำหนึ่งไม่นานหรอก ก็หายไปอีก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ซื้อเรืออีก
อยู่ติดคลอง ๓ ก็นึกว่าจะอาศัยเรือซักหน่อย
แต่งานก็ค่อยๆเขยิบ
พอค่อยๆขยับ สมาชิกในทีมที่เป็นลูกศิษย์ยายที่เริ่มมีความรู้สึกพร้อมขึ้น ก็ค่อยๆเข้ามาร่วม
แล้วก็ค่อยๆมีหลายคน แต่ไม่ได้เพิ่มอย่างรวดเร็ว เพิ่มทีละ ๒-๓ คน ๓-๔ คน

๒๕๑๓ จุดเริ่มต้นวัดพระธรรมกาย

แล้วสิ่งที่ต่อเนื่องกันไปก็คือ พอไปถึง ๒๕๑๓ วันมาฆะบูชา
เราก็เลยกำหนดแผนงานขึ้นก็คือขุดดินก้อนแรกในพื้นที่
แล้วถือว่าวันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัด
แต่จริงๆจุดเริ่มต้นเราไม่ได้คิดว่าจะสร้างทีเดียวเป็นวัด
เพราะการเป็นวัดมันมีขั้นตอน
ตอนแรกๆเราก็จะสร้างเหมือนเป็นสำนักสงฆ์
พอมีสงฆ์อยู่เราก็ใช้คำว่าสำนักสงฆ์ขึ้นมา
แต่ใช้คำแรกก็คือศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมขึ้นในพื้นที่

คุณครูไม่เล็กท่านจะอยู่คู่กันมากับหมู่คณะ ซึ่งพวกเราสร้างบารมีกันต่อมาก็คือวัดพระธรรมกาย
พูดกันชัดๆ ท่านก็คือผู้ที่อยู่เคียงข้างครูของท่าน ก็คือทั้งยายและคุณครูไม่ใหญ่มาตลอดหนทาง
เหนื่อยแค่ไหนเอาท่านไม่อยู่
เพราะท่านอดทน
แข็งแกร่งมาก
เหมาะมากสำหรับบุกเบิก
แล้วก็บุกเบิกได้สมใจ

ศูนย์พุทธจักร(วัดพระธรรมกายในปัจจุบัน)
ภาพประกอบ อุโบสถ ศูนย์พุทธจักร (วัดพระะรรมกายในปัจจุบัน)

คุณครูไม่เล็ก กับจิตสำนึกนักสร้างบารมีผู้ยิ่งใหญ่

นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้เริ่มในหลายๆอย่าง
พอถึงเวลาที่ท่านต้องบวช นั่นคือถึงเวลาที่ท่านจะต้องอบรมธรรมทายาท เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ แล้วมาได้พรรษา ๒๕๑๕
ที่ต้องบวชก่อนเพราะว่า ช่วงปิดเรียนภาคฤดูร้อนของนิสิตนักศึกษา
ปีถัดมาคือปีที่เริ่มต้นการฝึก
ตอนนั้นท่านบวชเพื่อเป็นพระอาจารย์ฝึกธรรมทายาทรุ่นที่ ๑
คุณครูไม่เล็กท่านอยู่กับประวัติวัดพระธรรมกายคือผู้ริเริ่ม
เป็นผู้ที่เข้าไปเป็นคนแรกในหลายๆเหตุการณ์ของวัดพระธรรมกาย
หาแผ่นดินก็ท่าน
รวมทีมแทนคุณครูไม่ใหญ่ก็ท่าน
ลงสู่พื้นที่คนแรกก็ท่าน
เป็นคนงานคนที่ ๑ ด้วยก็ท่าน
แต่จริงๆตำแหน่งของท่านก็คือตำแหน่งประธานก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมคนที่ ๑
และฉันก็จำไม่ได้ว่ามีคนที่ ๒ หรือเปล่า
รู้สึกว่าไม่มี
แล้วท่านทำในตำแหน่งนี้ ทำด้วยหัวใจ ประธานก่อสร้างศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมนี้ท่านทำด้วยหัวใจ
ที่ทำด้วยหัวใจนี้ ปัจจุบันอายุ ๗๘ จะเต็มอยู่อีกไม่กี่วัน
ยังเดินตรวจงานเช้ากลางวันเย็น มีเวลาว่างก็จะไปดูงาน
ความเหนื่อย ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำให้ท่านย่อท้อเลย
ขอให้มีเวลา ขอให้มีกำลัง ท่านพร้อมเสมอที่จะไปดูงานต่างๆ
ฉันเข้าใจว่านี่คือจิตสำนึกนักสร้างบารมีผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งทีเดียว
เวลาของท่านเป็นเวลาที่มีค่า ในการที่จะสร้างพื้นฐานให้กับลูกศิษย์ลูกหาทุกคน
สิ่งที่ท่านทำในวันนี้ถึงท่านจะอายุ ๗๘ ต้องไปเดินตรวจงาน
ฉันไม่อยากใช้คำว่าต้องเลย
เพราะมันเป็นสิ่งที่ท่านอยากทำ จะไปบอกว่า”ต้อง”นี่คงไม่ใช่
ท่านอยากจะไปทำ ท่านไปดูงาน

เช้า..ท่านไปดูงานแล้ว
ก่อนที่ฉันไปถึงบริเวณที่ท่านไปเนี่ย ท่านดูงานไปรอบนึงแล้ว
บางทีไปเจอท่านกำลังจะกลับ เราเพิ่งไปถึง เรายังสู้ท่านไม่ได้เลย
แต่ท่านทุ่มเททั้งหมดให้ก็เพื่อพวกเราทุกคน
เพราะนี่คือจิตสำนึกของผู้ที่เป็นครู
และนี่คือคุณครูไม่เล็กผู้อยู่ในหัวใจของลูกศิษย์ลูกหาทุกคน

พระครูปลัดสุวิทย์ สุวิชชาโภ
ภาพจากวิดีโอการบรรยายธรรมGBN ของพระครูปลัดสุวิทย์ สุวิชชาโภ

ฉันในนามของลูกศิษย์กราบขอบพระคุณสำนึกในพระคุณของคุณครูไม่เล็กเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งที่ท่านทุ่มเท สิ่งที่ท่านทำให้ จะอยู่ในใจของลูกศิษย์ตลอดไป
ความเป็นครูของคุณครูไม่เล็กจะสถิตย์อยู่ในหัวใจของลูกศิษย์ลูกหาทุกคน
และลูกศิษย์ทุกคนยินดีพร้อมใจกันที่จะระลึกถึงบุญกุศลที่จะบูชาทำท่าน
ด้วยบุญกุศลทั้งหลายที่ได้เคยสร้างกันมา
ขอบูชาธรรมอันยิ่งใหญ่ของคุณครูไม่เล็ก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ ๒๑ ธันวาคมพุทธศักราช ๒๕๖๑
ฉันพูดแทนลูกศิษย์ทุกคนนะจ๊ะ

เราจะทำเป้าสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ๙๗๘,๗๘๗,๘๗๘ จบ แล้วก็บวกอีกอย่างน้อย ๒๑ จบให้สำฤทธิผลให้เกินจากจำนวนนี้ให้ได้
เป็นการบูชาธรรมคุณครูไม่เล็กผู้อยู่ในหัวใจของลูกศิษย์ลูกหาทุกคน
กราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง
เรามีวันนี้เพราะท่านยอมเหนื่อยให้กับพวกเรานะจ๊ะ

การ์ดเชิญชวนสวดมนต์บทธํมมจักร
การ์ดเชิญชวนสวดมนต์บทธัมมจักรวันที่ 21ธันวาคม 2561

ที่มาภาพและเนื้อหา

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้