พุทธวิธีปลอดภัยจากโควิด

แชร์ให้เพื่อนเลย

ธรรมเทศนาในอาทิตย์ต้นเดือน 4 กรกฎาคม 2564 หลวงพ่อทัตตชีโว, ท่านได้เล่าถึงหลักคิดในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติโรคระบาด ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเป้าหมายปฏิบัติธรรมผ่าน zoom พร้อมกัน 1 ล้านคน สวดธรรมจักร 10,000 ล้านจบ ว่าจะสามารถช่วยประเทศและโลกได้ ซึ่งจะขอสรุปและเรียบเรียงมาดังนี้

การทำบุญออนไลน์ : การเติมบุญอย่างง่าย ๆ ให้กับตนเอง ผ่านห้อง Zoom

หลวงพ่อได้พูดถึงสิ่งที่ชาวโลกยังไม่รู้
ชาวโลกไม่รู้ว่า มนุษย์อยู่ได้ด้วยบุญ ต้องใช้บุญทุกวินาที
ชาวโลกไม่รู้ว่า มนุษย์เป็นผู้ควบคุมชะตา ดินฟ้าอากาศ และความเป็นไปของโลก ไม่ใช่การโคจรเคลื่อนที่ของดวงดาว ชาวโลกไม่รู้ว่า ความเจริญและความเสื่อมของมนุษย์ประเทศและโลก ขึ้นอยู่กับบุญบาป ไม่ใช่จากความรู้ความสามารถเพียงอย่างเดียว จนพระบรมศาสดาทรงนำความรู้เหล่านี้มาเปิดเผย ทำให้สัตว์โลกได้เห็นแสงสว่างและเข้าใจความจริงของชีวิต

การที่โลกประสบโรคระบาดโควิด แสดงว่าปริมาณบาปกับบุญของคนทั้งโลกใกล้เคียงกันแล้ว

ตอนคุณยายยังมีชีวิตท่านก็ได้ย้ำเตือนว่า
ความเจริญหรือความเสื่อมของมนุษย์ขึ้นอยู่กับบุญและบาป บุญมากบาปน้อยทำอะไรก็สำเร็จ
ครอบครัวก็เช่นกัน หากบุญของสมาชิกทุกคนในครอบครัวรวมกันแล้วมากกว่าบาป ครอบครัวนั้นก็ยังรุ่งเรืองอยู่
หากบาปกับบุญใกล้เคียงกัน ก็จะเริ่มระหองระแหงมีเรื่องกระทบกระทั่งกันในครอบครัว
ถ้าเมื่อไหร่บาปมากกว่าบุญครอบครัวแตกแยกทันที
ในห้างร้านบริษัท ถ้าบุญของเจ้าของบริษัทและพนักงานทุกคนรวมกันมากกว่าบาป บริษัทนั้นก็เจริญ
ถ้ารวมกันแล้วบาปมากกว่าบุญ บริษัทนั้นก็อยู่ไม่ได้
หรือไม่ว่าวัดในศาสนาไหน ถ้าสมาชิกในวัดนั้นบุญรวมกันมากกว่าบาป วัดนั้นในศาสนานั้นก็เจริญ
แต่ถ้าบาปมากกว่าบุญ วัดนั้นศาสนานั้นก็อยู่ไม่ได้
“ประเทศชาติก็เช่นเดียวกัน…
ประเทศชาติไหนประชาชนตั้งแต่ระดับผู้นำจนกระทั่งรากหญ้าบุญรวมกันมากกว่าบาป ประเทศนั้นเจริญ
ถ้าบาปมากกว่าบุญประเทศนั้นตกต่ำ”

หลวงพ่อท่านได้ให้ข้อคิดต่อไปอีกว่า
การที่โลกประสบโรคระบาดโควิด แสดงว่าปริมาณบาปกับบุญของคนทั้งโลกใกล้เคียงกันแล้ว
จะแก้ได้ ก็ต้องชวนกันเติมบุญกันทั้งประเทศและโลก

ความโลภ…ต้นเหตุของภัยพิบัติทั้งปวง

หลวงพ่อได้เล่าถึงที่มาของโรคระบาด และสาเหตุที่มนุษย์ล้มตายจำนวนมาก
เคยมีคนทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
ทำไมมนุษย์ในปัจจุบันถึงมีจำนวนน้อยกว่ามนุษย์ในอดีต ซึ่งมีจำนวนมาก หนาแน่นยิ่งกว่าในอเวจีมหานรก
พระบรมศาสดาทรงตอบว่า
ในอดีต มนุษย์ทั้งโลกมีความโลภมาก ตั้งแต่คนธรรมดาไปจนถึงผู้นำประเทศ
ต่างคนต่างเห็นแก่ได้ มือใครยาวสาวได้สาวเอา
พอมีคนโกรธหรือต่อต้าน ก็เกิดสงครามโลก มนุษย์ล้มตายจำนวนมาก
สิ้นสงคราม บ้างก็ยังต้องการเอาชนะ
บ้างก็หาโอกาสหารายได้ หาความร่ำรวยบนความพินาศของคนอื่นต่อไปอีก
ธรรมชาติก็วิปริตไปหมด เกิดทุพภิกขภัย ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ศัตรูพืช
เกิดความยากจน ผู้คนล้มตายจำนวนมาก
จนในที่สุดก็เกิดโรคระบาด

หลวงพ่อให้ข้อคิดว่า
ที่โลกประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ เกิดจากบาปของความโลภสะสม ที่มนุษย์ทำกันอย่างต่อเนื่อง
เห็นเขาโลภ..แทนที่จะเตือนกัน กลับไปช่วยกันโกงช่วยกันโลภ
เขาทำไม่ถูก..ก็ไปปรบมือให้เขาอีกด้วย
ยังไปเชื้อเชิญคนพาลมาครองเมืองอีกด้วย
คนดี..ที่มาช่วยบ้านเมืองหรือบริษัท กลับมองว่าเป็นคนเลว ไล่เขาออกไป
.

ด่า..เท่ากับแช่งตัวเอง

ตอนนี้คนทั้งโลกเต็มไปด้วยอารมกลัวกับอารมโกรธ
กลัวจน กลัวเจ็บ กลัวตาย กลัวโรคระบาดจะมาถึงตัว
โกรธ..ที่เขาทำไม่ได้ดั่งใจ

ในวาระนี้..หลวงพ่อห้ามเด็ดขาดเลยก็คือ
“ห้ามด่า”
ใครทำอะไรไม่ถูกก็ให้พูดกันตรงๆด้วยเหตุด้วยผล
ถ้าเอาแต่ด่ากัน..ไม่จบ
ทุกคำที่ด่า..เกิดจากความโกรธ
โกรธทุกครั้ง ..บาปเพิ่ม
แค่คิดที่จะด่า..บาปก็เพิ่มขึ้นมาแล้ว
พอคำด่าหลุดออกจากปาก คนแรกที่ได้ยินก็คือตัวเราเอง
คนที่ฟัง..ก็คือคนในบ้าน แล้วก็ช่วยกันเสริมด่าตามไปด้วย
กลายเป็นว่า..ช่วยกันเติมบาป..ทั้งบ้านเลย
ส่วนคนที่ถูกเราด่า..ไม่ได้ยิน ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย

หลวงพ่อเน้นย้ำว่า..
“ทุกคำด่าที่ออกจากปากตัวเอง จะด่าใครก็ตาม นั่นเป็นการแช่งตัวเองทั้งสิ้น
เป็นการเติมบาปให้กับตัวเองทั้งสิ้น
แต่วาระนี้..ต้องการบุญ แต่เราก็มาเติมบาป แล้วจะให้มันดีขึ้นมาได้อย่างไรละ”

หากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย ไม่ว่าจะท้องถิ่นหรือระดับประเทศ ทำผิด ทำไม่ถูก ไม่ควร หรือทำไม่เหมาะสมกับประชาชน หลวงพ่อบอกว่า
“ก็เป็นเรื่องที่ต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ก็ต้องพูดกันชัดๆ พูดกันพร้อมๆ .. แต่ไม่ด่า”
ให้ทำตามหลักที่พระบรมศาสดาทรงให้ไว้คือ อนูปวาโท ” ห้ามว่าร้าย ห้ามด่า .. แล้วก็เติมบุญ

เติมบุญให้ตัวเองคือเติมบุญให้โลกด้วย

หลวงพ่อได้ให้หลักคิดในเรื่องการเติมบุญว่า
เติมบุญให้ตัวเอง..ก็คือเติมบุญให้ประเทศชาติและโลกด้วย
แล้วก็ให้สมาชิกทุกคนช่วยกันเติมบุญให้ครอบครัว
ช่วยกันเติมบุญกันในบริษัทหรือวัด
และให้หลวงพ่อหลวงพี่ชวนประชาชนเติมบุญกันทั้งประเทศเลย

คำเตือนจากคุณยาย ต้องทำบุญใหญ่ให้ต่อเนื่อง แล้วร้ายจะกลายเป็นดี

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า
คุณยายท่านเคยเตือนเอาไว้ว่า
“เรื่องร้ายๆจะเกิดขึ้นในโลกนี้ เพราะว่า…คนในยุคนี้เขาไม่รู้จักบุญ เพราะฉะนั้นพวกท่านหาทางทำบุญใหญ่ให้ต่อเนื่องกันไป แล้วจะช่วยทำให้ร้าย กลายเป็นดีขึ้นมาได้”
จากคำเตือนของคุณยายนี้
ที่ทำให้เกิดการจัดงานตักบาตรพระคราวละหมื่นๆแสนๆรูปทั้งในและต่างประเทศ
จัดบวชพระ 100,000 รูปทั่วประเทศ
ชวนสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรหลายพันล้านจบ

สวดธรรมจักรแล้วได้บุญใหญ่

หลวงพ่อท่านอธิบายว่า
ธรรมจักรเป็นแม่บทคำสอนของพระพุทธศาสนา เพื่อจะยกใจชาวโลกให้บริสุทธิ์
เป็นแม่บทของการปราบกิเลส แม่บทของการปราบทุกข์ แม่บทในการที่จะทำให้ใจผ่องใสอย่างถาวร
ตลอด 45 พรรษา ที่พระบรมศาสดาทรงโปรดสัตว์โลกจนเข้าถึงธรรม เป็นพระอรหันต์มากมาย ก็อาศัยการย่อความหรือขยายความจากธัมมจักกัปปวัตนสูตรนี้เอง
ใครที่สวดธรรมจักร..ไม่ว่าจะแปลได้หรือไม่ จะทำให้ใจสงบเป็นสมาธิ
และได้ชื่อว่า ได้แม่บทปราบกิเลสให้กับตัวเองไว้แล้ว
นี่ถือเป็นบุญใหญ่ประจำตัวเลยทีเดียว

สวดธรรมจักรล้านคน 10,000 ล้านจบ

“เราตั้งเป้าไว้แล้ว 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เราจะสวดให้ได้ 10,000 ล้านจบทั่วโลก และจะต้องมาสวดในโครงการสวดธรรมจักรนี้ 1 ล้านคนพร้อมๆกันด้วย”

“ก็ต้องเอาบุญอย่างนี้มาเฉลี่ยกันแล้วยกโลกให้มันพ้นจากโรคระบาดและธรรมชาติพิโรธ จะเติมบุญกันด้วยวิธีอย่างนี้”

“เด็กก็ช่วยกันได้ ผู้ใหญ่ก็ช่วยกันได้ คนป่วยนอนอยู่บนเตียงก็ช่วยกันได้ ช่วยเติมบุญให้กับตัวเอง แล้วก็กลายเป็นช่วยเติมบุญให้กับคนทั้งโลกด้วย”

“ช่วยกันเถอะนะ ช่วยกันอย่างนี้เป็นการช่วยตัวเอง แต่มีผลช่วยคนทั้งโลกไปด้วย”

ทำไมต้องสวดธรรมจักร 1 ล้านคน 10,000 ล้านจบ

“คนในโลกนี้มีตั้งกี่พันล้านคน ทุกคนก็ควรได้แม่บทของการปราบกิเลส ปราบทุกข์ … จะดัดสันดานตัวเองมันก็ต้องมาจากแม่บทนี้แหละ เพราะฉะนั้น คนในโลกนี้ก็ควรจะสวดได้ทุกคน เป้าหมายมันควรจะเป็นอย่างนี้ถึงจะแก้ไขโลกให้กลับมาเป็นสุขได้”

“ไม่ใช่ล้านคนสวด อีกร้อยล้านคนยังนั่งด่ากันอยู่ มีพันล้านคนก็ต้องมาสวดทั้งพันล้านคน แต่เมื่อยังตามพันล้านคนมาสวดไม่ได้ เอามาทีละล้านก่อน..เดี๋ยวก็ได้”

พลิกโลกด้วยธรรมจักร

หลวงพ่อกำชับว่า
สวดธรรมจักรแล้ว ต้องนำไปปฏิบัติให้ได้ด้วย
“เราสวดมากันเป็นปีๆแล้ว คำแปลก็รู้แล้ว ถ้าใครยังไม่รู้ก็หาคำแปลไม่ยาก เปิดคอมพิวเตอร์เดี๋ยวเดียวก็ได้คำแปลออกมาแล้ว ถ้ายังไม่ทราบความหมายที่ลึกซึ้งก็ไปซักถามจากหลวงพ่อหลวงพี่หลวงปู่”

“และวันนี้ขอให้พัฒนาการสวดด้วย”
ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงกัน..พอสวดคล่องๆเข้าบางทีสวดแต่ปากแต่ใจไม่ได้อยู่กับบทสวดสักเท่าไหร่ ถ้าสวดแล้วใจไม่ค่อยได้อยู่กับตัวเต็มที่..บุญจะหย่อนไป
“เพราะฉะนั้นต่อแต่นี้ไป หลวงพ่อขอแล้วนะ เวลาสวดพระธรรมจักรกำหนดองค์พระหรือดวงแก้วไปด้วยในตัว
จะเป็นองค์พระก็ได้ เป็นหลวงปู่ก็ได้ เป็นดวงแก้วก็ได้ หรือจะเอาเป็นดวงอาทิตย์ดวงดาวดวงจันทร์ก็ไม่ว่า
กำหนดลงไปเลยที่ศูนย์กลางกายของเรา ที่เป็นศูนย์บุญ
ตลอดทั้งจบ 17 นาทีจะไม่ให้ใจไปอย่างอื่นเลย
จะไม่ให้ใจวอกแวกไปที่ไหนเชียว
เมื่อก่อนใจอาจจะวูบวาบวอกแวกไปโน่นไปนี่ แว๊บไปแว๊บมา
ต่อแต่นี้ไป เพื่อให้ได้บุญใหญ่ เพื่อตัวของเราเองด้วย เพื่อครอบครัวของเราด้วย เพื่อประเทศชาติและพระพุทธศาสนา และเพื่อคนทั้งโลกด้วย..เราจะตั้งใจสวด

ตลอดเวลาที่สวด 17 นาทีนี้ จะมีภาพหลวงปู่ หรือภาพองค์พระ หรือดวงแก้วดวงจันทร์ดวงดาวก็ได้..นิ่งอยู่ที่กลางท้องของเรา จะชัดไม่ชัดก็ให้กำหนดอย่างนี้..อีกหน่อยก็ชัดเอง จะเป็นองค์พระคุ่มๆค่ำๆเป็นแค่เงาๆก็ไม่ว่า จะเป็นหลวงปู่ของเรา จะเป็นรูปปั้นรูปถ่ายก็ไม่ว่า จะเป็นดวงแก้วดวงเล็กดวงใหญ่ก็ไม่ว่า หรือจะเอาดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ดวงดาวมาตั้งไว้ในท้องก็ไม่ว่า
ขอแต่ว่า สวดไป องค์พระต้องชัด ดวงแก้วต้องชัด.. ชัดอยู่ในใจ จะเป็นภาพออกมา สว่างโพลงออกมาหรือไม่ไม่ว่ากัน ขอให้ได้ต่อเนื่องก็แล้วกัน ต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ ต่อเนื่องเหมือนสายฝน
ถ้าอย่างนี้บุญใหญ่จะเกิดขึ้นแก่เรา
และกิจการต่างๆรับรองจะดีขึ้นหมด
ไม่ต้องไปโวยวายกับใครทั้งนั้น บุญมากพอ..ทุกอย่างก็จะพลิกกลับมาให้เรา
เป็นหลักชัดเจน..ทุกอย่างสำเร็จด้วยบุญ

เครือข่ายนักสวดธรรมจักรพลิกโลก

“ชวนเพื่อนบ้านด้วย ชวนสมาชิกด้วย เพราะทั้งหมดนี้เราไม่ได้ทำเพื่อตัวของเราเพียงลำพัง
นี่เราจะช่วยกันแก้ไขโลก
เพราะฉะนั้น..สร้างเครือข่ายนักสวดธรรมจักรขึ้นมา สร้างมากเท่าไหร่ก็จะพลิกโลกกลับมาได้เร็วเท่านั้น
เพราะฉะนั้นจึงได้ตั้งเป้าไว้ว่า เราจะมีสมาชิก 1 ล้านคนมาสวดพร้อมๆกัน เราจะพลิกโลกด้วยมือของเราเอง

บุญใหญ่เกิดขึ้นได้ทุกวินาที

นอกจากนี้ไม่ว่าจะทำงานบ้าน ทำกิจวัตรประจำวัน อะไรก็ตาม หลวงพ่อให้สัมมาอะระหังหรือสวดธรรมจักรไปด้วย กำหนดองค์พระดวงแก้วไปด้วย
ท่านบอกว่า “บุญจะเกิดขึ้นทุกวินาที เป็นการช่วยตัวเอง
จะวัคซีนยี่ห้อไหนก็ไม่ขลังเท่ากับบุญที่สร้างได้
แม้ขับถ่าย..ยังสร้างบุญได้..โรคอะไรก็สู้เราไม่ได้หรอก”
“เป็นบุญใหญ่จริงๆ จะไปหาบุญใหญ่ที่ไหนเกินกว่านี้..ยาก”
“พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค้นวิธีทำบุญใหญ่ ท่านก็ไม่ได้เอามาจากไหน ท่านก็เอาอย่างนี้แหละ..เอาใจไว้ในตัว”
การเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย ได้ชื่อว่า ปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 อยู่ในตัวพร้อม
หลวงปู่ท่านใช้คำว่า “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” ก็คือการปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ทุกอิริยาบท เดี๋ยวใจก็หยุดนิ่งสว่างที่ศูนย์กลางกายเอง แล้วบุญใหญ่จะเกิดกับเราแน่นอน
กลัวก็หาย โกรธก็คลาย เพราะบุญมาหล่อเลี้ยงใจ
ทุกลมหายใจเข้าออก ทุกย่างก้าว บุญเก่าก็ใช้ไป บุญใหม่ก็ผลิตขึ้นมาไม่ขาดสาย
อย่างนี้…โควิดทำอะไรเราไม่ได้

ที่มาภาพและเนื้อหา

คิดอย่างไรกับเรื่องนี้